จอร์แดน เจมส์ กองกลางดาวรุ่งรายล่าสุดที่เลสเตอร์คว้าตัวมาร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัว คืออีกหนึ่งนักเตะพรสวรรค์ที่น่าจับตามอง ผ่านประสบการณ์ในศึก สกาย เบต แชมเปี้ยนชิพ และยังเคยสัมผัสเวทียุโรปมาแล้วเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
จอร์แดน เจมส์ เกิดที่เมืองเฮเรฟอร์ด เดือนกรกฎาคม ปี 2004 ฟุตบอลเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขามาโดยตลอด โดยคุณพ่อ โทนี่ เจมส์ เคยเป็นกองหลังอาชีพที่โลดแล่นในวงการกว่า 20 ปี กับสโมสรเบอร์ตัน อัลเบี้ยน, นิวพอร์ต เคาน์ตี้ และเฮเรฟอร์ด ยูไนเต็ด
เมื่ออายุเพียง 8 ขวบ จอร์แดนก็เริ่มต้นเส้นทางลูกหนังกับอะคาเดมี่ของเบอร์มิ่งแฮม ซิตี้ ความทุ่มเทและพรสวรรค์ทำให้เขาโดดเด่นขึ้นเรื่อย ๆ การเดินทางไปสนามซ้อมกลายเป็นกิจวัตรที่ต้องเสียสละ แต่ผลลัพธ์คือการก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่สโมสรมองว่าอนาคตไกลที่สุด
เดือนพฤศจิกายน 2021 เจมส์ได้รับโอกาสประเดิมสนามในทีมชุดใหญ่ของเบอร์มิ่งแฮม ซิตี้ บนเวทีแชมเปี้ยนชิพ ขณะอายุเพียง 17 ปี เขาแสดงให้เห็นถึงความนิ่งยามครองบอล, ความแข็งแกร่งในการดวลตัวต่อตัว และพลังงานที่เต็มเปี่ยม จนดูไม่เหมือนแข้งดาวรุ่งที่เพิ่งขึ้นมาสู่ทีมใหญ่
ฤดูกาลถัดมา (2022/23) เขากลายเป็นกำลังหลักของทีมอย่างเต็มตัว ด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจจากผู้จัดการทีม ที่เชื่อมั่นในความเป็นผู้ใหญ่เกินวัยของเขา
จนถึงซัมเมอร์ปี 2024 เจมส์ลงเล่นไปแล้วกว่า 100 นัดในลีกและบอลถ้วย ยิงได้ 10 ประตูจากแดนกลาง พร้อมโชว์ความหลากหลาย ทั้งการเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวโฮลด์บอล หรือมิดฟิลด์ตัวรุกได้ตามแท็กติก
ด้วยสไตล์การเล่นที่ผสมผสานทั้งความแข็งแกร่งและการจ่ายบอลที่มองหาความก้าวหน้า เขากลายเป็นเป้าหมายของแมวมองจากหลายสโมสรในยุโรป ได้รับรางวัลนักเตะดาวรุ่งแห่งปีของเบอร์มิ่งแฮม และยังได้รับการยอมรับในระดับทีมชาติ หลังจากติดทั้งทีมเยาวชนอังกฤษและเวลส์ สุดท้ายเลือกเล่นให้ทีมชาติเวลส์ชุดใหญ่ โดยประเดิมสนามในเดือนมีนาคม 2023
ประสบการณ์ในแชมเปี้ยนชิพทำให้เขามีฐานที่มั่นคง และเป็นเวทีที่ช่วยเสริมสร้างให้พร้อมสำหรับการก้าวต่อไป
เดือนสิงหาคม 2024 เจมส์ตัดสินใจครั้งสำคัญ ย้ายไปค้าแข้งกับสโมสรแรนส์ ในลีก เอิง ฝรั่งเศส เพื่อออกจากคอมฟอร์ตโซนและเติบโตในสภาพแวดล้อมใหม่ เขาลงสนามให้ แรนส์ ไปทั้งหมด 25 นัดในฤดูกาล 2024/25 พร้อมยังคงรับใช้ทีมชาติเวลส์อย่างสม่ำเสมอ
ด้วยวัยเพียง 21 ปี เรื่องราวของเขาเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ปัจจุบันเป็นทั้งนักเตะลีกเอิงและทีมชาติชุดใหญ่ ก้าวต่อไปของเขาคือบทบาทที่ถิ่น คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม เพื่อเติมเต็มคุณภาพแดนกลางให้กับทีมของ มาร์ตี ซิฟูเอนเตส