เจมส์ จัสติน ฟูลแบ็กจอมขยันย้ายจาก ลูตัน ทาวน์ เมื่อต้นฤดูกาล 2019/20 เป็นผู้เล่นที่โชว์ฟอร์มเป็นที่น่าจับตามองคนหนึ่งในทีมกองหลังดาวรุ่งวัย 21 ปี เซ็นสัญญา 5 ปี กับทีม “จิ้งจอกสยาม”จัสติน ย้ายมาร่วมทีมเลสเตอร์ ซิตี้ หลังจากประสบความสำเร็จในฤดูกาล 2018/19 กับ ลูตัน ทาวน์ ซึ่งเขาลงสนามให้กับทีม 52 นัดในทุกรายการ ทำไป 3 ประตู และช่วยให้ ลูตัน เลื่อนชั้นกลับขึ้นมาสู่ แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษอีกครั้งในรอบ 12 ปี
ฮัมซ่า เชาฮ์ดรี้ กองกลางดาวรุ่งผลผลิตแห่ง เลสเตอร์ ซิตี้ อะคาเดมี่ ตั้งแต่ปี 2005 จนถึงปัจจุบัน กับการเป็นผู้เล่นทีมชุดใหญ่ให้กับสโมสรอย่างเต็มภาคภูมิ
ฮัมซ่า เชาฮ์ดรี้ กองกลางชาวอังกฤษวัย 20 ปี มีเชื้อสายบังกลาเทศ เขาเป็นนักเตะเยาวชนของเลสเตอร์ ตั้งแต่ปี 2011 ก่อนจะเซ็นสัญญาอาชีพในปี 2016 และเนื่องจากไม่สามารถขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ได้ เขาจึงถูกปล่อยยืมตัวไปยัง เบอร์ตั้น อัลเบี้ยน เป็นเวลา 1 ฤดูกาล ล่าสุดเขากลับมาเล่นให้กับเลสเตอร์อีกครั้ง และประเดิมให้กับเลสเตอร์ เป็นตัวสำรอง ในเกมคาราบาว คัพ 2017 รอบ 3
วิลเฟรด เอ็นดีดี้ กองกลางชาวไนจีเรีย วัย 20 ปี เริ่มต้นเส้นทางค้าแข้งอาชีพกับ เกงค์ ทีมจากเบลเยียม เขาสามารถเล่นได้ทั้ง ฟูลแบ็ก และ กองหลังตัวกลาง และรับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมอันดับ 3 ของ ลีกสูงสุดเบลเยียม เอ็นดิดี้ ประเดิมลงสนามให้ เลสเตอร์ ซิตี้ ในเกม เอฟเอคัพ ที่เอาชนะ เอฟเวอร์ตันไปได้ 2-1 ฤดูกาล 2017/18 ซึ่งเป็นฤดูกาลที่ เอ็นดิดี้ ยึดตำแหน่งตัวจริงอย่างถาวรให้กับเลสเตอร์ เจ้าตัวก็ทำ สถิติเป็นนักเตะที่ แท็คเกิ้ล มากที่สุดในลีก เอ็นดิดี้ ต่อสัญญาฉบับใหม่กับสโมสรออกไปอีก 6 ปี ฉลองการเป็นนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของสโมสร 2 ฤดูกาลติดต่อกัน
แฮร์รี่ วิงค์ส ดาวเตะวัย 27 ปี เป็นเด็กปั้นของ “ไก่เดือยทอง” ก่อนที่ในฤดูกาลล่าสุดจะถูกปล่อยให้ ซามพ์โดเรีย ทีมในศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ยืมตัวไปร่วมทีม และมีโอกาสลงสนามทั้งหมด 20 เกม ส่วนผลงานในระดับทีมชาตินั้น วิงค์ส เคยลงสนามให้ทีมชาติอังกฤษทั้งหมด 10 นัด วิงค์ส ผ่านการลงเล่นให้ สเปอร์ส มากกว่า 200 เกม นับตั้งแต่ประเดิมสนามให้ทีม “ไก่เดือยทอง” ในปี 2016 ก่อนที่ตัดสินใจย้ายมาร่วมทัพ “จิ้งจอกสยาม” ในฤดูกาล 2023/24 วิงค์ส เริ่มต้นฝึกฟุตบอลกับ สเปอร์ส ก่อนลงสนามให้ทีมชุดใหญ่ครั้งแรกในปี 2014 ในเกม ยูโรป้า ลีก กับ เอฟซี ปาติซาน หลังจากนั้น แข้งวัย 27 ปี ได้โอกาสลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก ครั้งแรกในอีกสองปีต่อมาในเกมเปิดบ้านพบ ลิเวอร์พูล ก่อนสร้างสถิติลงสนามในลีกทั้งหมด 32 เกมในฤดูกาล 2016/17 ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยม ทำให้ วิงค์ส ก้าวขึ้นไปติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ครั้งแรกในเดือนตุลาคม ปี 2017 โดยได้ประเดิมสนามในเกมพบ ลิธัวเนีย นอกจากนี้ ยังมีโอกาสได้สัมผัสเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นครั้งแรกในปีเดียวกันอีกด้วย
ริคาร์โด้ เปเรยร่า มีชื่อเป็นหนึ่งใน 23 นักเตะทีมชาติโปรตุเกส ไปลุยศึกฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ที่ รัสเซีย และ ได้ลงสนามในเกมนัดสุดท้าย ที่ พ่ายให้กับ อุรุกวัย ตกรอบ 2 ฟุตบอลโลก 2018 ไปอย่างน่าเสียดาย ฤดูกาล 2018/19 เปเรยร่า ได้ประเดิมสนามนัดแรกกับเลสเตอร์ ด้วยการบุกไปเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และหลังจากนั้น ริคาร์โด้ เปเรยร่า ก็กลายเป็นขวัญใจแฟนบอลของเลสเตอร์ ซิตี้ ด้วยสไตล์การเล่นเกมรุกที่ ดุดัน แม้ว่าจะเป็นผู้เล่นในตำแหน่งแบ็กขวาก็ตาม
คอนเนอร์ โคดี้
เลสเตอร์ ซิตี้ เซ็นสัญญากับ คอนเนอร์ โคดี้ จาก วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ด้วยสัญญา 3 ปี ก่อนฤดูกาล 2023/24 กองหลังวัย 30 ปีที่เคยลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษทั้งหมด 10 เกม เซ็นสัญญาร่วมทัพ “จิ้งจอกสยาม” จนถึงปี 2026 โดยไม่เปิดเผยค่าตัว
โคดี้ เริ่มต้นฝึกฟุตบอลกับ ลิเวอร์พูล ในปี 2005 ก่อนที่จะได้โอกาสลงสนามให้ทีมในเดือนพฤศจิกายน ปี 2012 ในเกมยูฟ่า ยูโรป้า ลีก กับ อันจิ มาคาชคาล่า ในเดือนพฤษภาคม ปี 2013 โคดี้ ลงสนามให้ ลิเวอร์พูล ในเกมพบ ฟูแล่ม ก่อนโดนปล่อยตัวให้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ยืมตัวในฤดูกาลต่อมา และลงสนามไปถึง 50 เกม ในปี 2014 ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ อดีตเด็กฝึกลิเวอร์พูล ไปร่วมทีมก่อนที่จะทำผลงานได้ดี โคดี้ ติดทีมชาติอังกฤษตั้งแต่รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปีถึงรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ก่อนลงสนามให้ทีมชุดใหญ่ในเกมพบ ทีมชาติเดนมาร์ก ในเดือนกันยายน ปี 2020
บ็อบบี้ เดอ คอร์โดวา-รีด ด้วยประสบการณ์การลงเล่นทั้งในพรีเมียร์ลีกและ แชมเปี้ยนชิพ ดาวเตะใหม่คนนี้จะช่วยเพิ่มมิติในเกมรุกให้กับ เลสเตอร์ ของสตีฟ คูเปอร์ในฤดูกาลที่กำลังจะมาถึงนักเตะจาก บริสตอล ซึ่งเล่นให้กับทีมชาติจาเมกา ย้ายจากทีม ฟูแล่ม มาร่วมทัพ จิ้งจอกสยาม ด้วยสัญญา 3 ปี โดยเขาได้สร้างผลงานที่น่าจดจำไว้มากมายในช่วงเวลาเกือบ 5 ปีที่ค้าแข้งอยู่ในถิ่นคราเวน คอตเทจ ช่วยให้ทีมเลื่อนชั้นขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกถึง 2 ครั้งในฐานะแชมป์ แชมเปี้ยนชิพ และผู้ชนะการแข่งขันเพลย์ ออฟ โดยลงเล่นไปกว่า 200 นัดตลอดช่วงเวลาที่อยู่กับทีม ‘เจ้าสัวน้อย’ ฟูแล่ม ด้วยขนาดและรูปร่างที่เล็ก ปีกจอมทักษะรายนี้สามารถเล่นทั้งด้านข้างหรือตัดเข้ามาเล่นตรงกลาง เขาสร้างชื่อให้กับตัวเองที่ บริสตอล ซิตี้ ก่อนจะเติบโตและเซ็นสัญญาอาชีพฉบับแรกกับสโมสร
ยานนิค เวสเตอร์การ์ด อดีตแข้งจากเซาธ์แฮมป์ตัน ดีกรีกองหลังทีมชาติ เดนมาร์ก ผู้มาเสริมทัพให้ “จิ้งจอกสยาม” ในฤดูกาล 2021/22 เซ็นเตอร์แบ็ก ร่างยักษ์ ที่พกพาความสูง 198 เซนติเมตร ผู้นี้เติบโตที่ประเทศเดนมาร์ก ที่ซึ่งเขาได้ใช้เวลาในช่วงวัยเด็กไปกับการเล่นฟุตบอลให้กับสโมสรหลายแห่ง รวมถึง สโมสร บรอนด์บี้ ไม่นานนักหลังจากที่สโมสรประสบความสำเร็จ ได้ครองถ้วยแชมป์ ในลีกการแข่งขันกว่า 10 รางวัลด้วยระยะเวลาเพียงไม่ถึงสองทศวรรษเท่านั้น เมื่อได้สั่งสมประสบการณ์ที่บ้านเกิดมาพอสมควร เขาก็ย้ายไปค้าแข้งที่เยอรมัน ที่ซึ่ง เวสเตอร์การ์ด ประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งผลงานที่ทำให้กับสโมสรที่สังกัด และในนามตัวแทนทีมชาติอีกด้วย
